Generation ที่ 5 (รุ่นปี พ.ศ. 2540 - 2544) ของ ฮอนด้า พรีลูด

ฮอนด้า พรีลูด รุ่นที่ 5

โฉมสุดท้ายนี้ ฮอนด้าออกแบบตัวถังพรีลูดให้ผสมผสานลักษณะของตัวถังรถในยุคปลายทศวรรษ 1990 โดยออกแบบบั้นท้ายของรถให้เรียวขึ้น และออกแบบไฟด้านหน้าใหม่ และเครื่องยนต์จะเน้นทันสมัยและประหยัด พรีลูดยกเลิกการผลิตเครื่องระบบหัวฉีดธรรมดา เครื่องยนต์ของพรีลูดในโฉมนี้ จะเป็นเครื่องระบบหัวฉีด VTEC DOHC (ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาร์ฟ) ซึ่งสามารถสร้างแรงบิดและแรงม้าได้มากเมื่อเทียบกับรถที่มีขนาดเครื่องยนต์ (ซีซี) เท่ากัน

พรีลูดที่ฮอนด้าขายนั้น ในช่วงรุ่นปี พ.ศ. 2540-2541 จะเป็นเครื่องยนต์หัวฉีด VTEC 2.2 ลิตร H22A 195 แรงม้า แต่พอถึงรุ่นปี 2542 ได้พัฒนาเครื่องยนต์เป็นเครื่องยนต์หัวฉีดแบบ VTEC 2.2 ลิตร H22A 200 แรงม้า ที่ 7000 รอบ/นาที

แต่เฉพาะในญี่ปุ่น มีการผลิตฮอนด้า พรีลูด Type R ซึ่งเป็นเครื่องที่แรงเป็นพิเศษ กล่าวคือ เป็นแบบ หัวฉีด VTEC DOHC ฝาแดง ความจุ 2.2 ลิตร H22A 223.1 แรงม้า ที่ 7200 รอบ/นาที และให้ทอร์ก 221 นิวตันเมตร ที่ 6500 รอบ/นาที ถือเป็นแรงที่มากสำหรับเครื่องที่มีความจุเท่ากัน โดยที่ไม่ได้ใช้ระบบอัดอากาศ (เทอร์โบ) แต่อย่างใด และไม่มีขายในประเทศไทย

ฮอนด้า พรีลูด รุ่นปีสุดท้าย คือ รุ่นปี พ.ศ. 2544 และฮอนด้า พรีลูด คันสุดท้าย ผลิตใน พ.ศ. 2545 แล้วเลิกผลิตไป เนื่องจากไม่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเท่าที่ควร เพราะในช่วงนั้นถือเป็นยุคสิ้นความนิยมในรถสปอร์ตคูเป้แล้ว ทำให้ผู้ผลิตรายต่างๆ เช่นโตโยต้า นิสสัน มิตซูบิชิ รวมถึงฮอนด้าต้องเลิกผลิตรถสปอร์ตคูเป้ไป ถือเป็นการปิดตำนานรถสปอร์ตขนาดเล็กของฮอนด้าไปตั้งแต่บัดนั้น